Search for:
  • Home/
  • Sports News/
  • อุตุนิยมวิทยาโลกประกาศ ปี 2023 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

อุตุนิยมวิทยาโลกประกาศ ปี 2023 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เผยแพร่รายงาน 2023 State of the Global Climate เป็นการเฉพาะกาล เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) ขณะที่การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 28 หรือ COP28 เปิดฉากขึ้นที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยอุตุนิยมวิทยาโลกเตือนว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้สูงขึ้น 1.4 องศาเซลเซียส จากยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม หรืออีกเพียง 0.1 องศา ก็จะเท่ากับเป้าหมายในข้อตกลงปารีสที่จะพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศา

 อุตุนิยมวิทยาโลกประกาศ ปี 2023 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

บราซิลร้อน 44.8 องศาเซลเซียส ทุบสถิติประเทศ

UN เตือนโลกอาจร้อนขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้

ใกล้หายนะเข้าไปทุกที สัปดาห์ที่แล้วโลกร้อนเกิน 2 องศาฯ ชั่วขณะ!

ขณะที่ช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนของปีนี้ ไม่น่าจะหยุดยั้งไม่ให้ปี 2023 เป็นปีที่ร้อนที่สุดได้

รายงานของอุตุนิยมวิทยาโลกยังระบุว่าด้วยว่า ช่วง 9 ปี ตั้งแต่ 2015 จนถึงปี 2023 เป็นช่วงที่โลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

เพตเทรี ทาลัส เลขาธิการอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่า การมาของเอลนีโญที่เร็วขึ้นในปีนี้อาจทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยในปีหน้าเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1.5 องศา และไม่ว่าจะเป็นอย่างไร โลกก็มีแนวโน้มที่จะร้อนขึ้นไปไกลกว่าตัวเลขนั้น

ทาลัสระบุว่า “เรากำลังมุ่งหน้าสู่อุณหภูมิเฉลี่ยโลกที่สูงขึ้น 2.5 ถึง 3 องศา จากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม และนั่นหมายความว่า เราจะเห็นผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายกว่านี้มาก

รายงานของอุตุนิยมวิทยาโลกยังไล่เรียงเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นพายุแดเนียลที่ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในกรีซ บัลแกเรีย และตุรกี ก่อนจะเคลื่อนตัวผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทำให้น้ำท่วมใหญ่ในลิเบีย ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนกว่า 4,300 คน และหายสาบสูญกว่า 8,500 คน

หรือพายุไซโคลนเฟรดดี้ที่เป็นหนึ่งในพายุหมุนเขตร้อนที่มีอายุนานที่สุด หลังก่อตัวต้นเดือนก.พคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. และขึ้นฝั่งประเทศโมซัมบิกเดือน มี.ค.

คลื่นความร้อนในช่วงฤดูร้อนของซีกโลกเหนือทำให้หลายประเทศเผชิญกับอุณหภูมิสูงผิดปกติ และเกิดไฟป่าหลายพื้นที่ ซึ่งที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นในแคนาดา

ขณะที่ภัยแล้งในปีนี้ก็สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างมากที่สุด ครอบคลุมภูมิภาคต่างๆ เช่น ตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา หลายพื้นที่ของคาบสมุทรไอบีเรีย เอเชียกลางและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ อเมริกาใต้ และหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวที่ดูไบก่อนการประชุม COP28 จะเริ่มขึ้นว่า “การที่โลกร้อนขึ้นเป็นประวัติการณ์น่าจะทำให้บรรดาผู้นำโลกสันหลังวาบ และกระตุ้นให้พวกเขาทำอะไรบางอย่าง เรากำลังมีชีวิตอยู่ท่ามกลางการล่มสลายของสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบของมันร้ายแรงมาก”

ภาพจากSEBASTIEN BOZON / AFP